BCTC:รัฐบาลไทยมุ่งมั่นที่จะเกินเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจ 3% ภายในปี 2568 โดยหวังว่าการเติบโตที่แข็งแกร่งในครึ่งปีแรกจะผลักดันแผนกระตุ้นเศรษฐกิจสำคัญรอบใหม่ ขณะที่ เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า มาตรการมูลค่า 1.5 แสนล้านบาท รวมถึงแผน “กระเป๋าเงินดิจิทัล” ระยะต่อไป คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายในสิ้นไตรมาส 3
แกนหลักโครงการคือโครงการ “กระเป๋าสตางค์ดิจิทัล” มูลค่า 450,000 ล้านบาท ซึ่งตั้งเป้าที่จะให้เงินอุดหนุน 10,000 บาท ให้กับประชาชนประมาณ 45 ล้านคน เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ซบเซาตั้งแต่เกิดโรคระบาด แม้ว่าประมาณหนึ่งในสามของการชำระเงินจะทำเป็นเงินสด แต่ผู้ว่าการธนาคารกลางตั้งข้อสังเกตว่าการเติบโตของการบริโภคยังคงอ่อนแอและเงินบางส่วนก็ถูกใช้เพื่อชำระคืนเงินกู้แทนที่จะใช้เพื่อการบริโภคทันที อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาสสี่ของปีก่อนอยู่ที่เพียง 3.2% ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้
เป้าภูมิ ย้ำรัฐบาลมีสำรองทรัพยากรไว้เพียงพอ และจะจัดสรรเวลาการใช้จ่ายอย่างรอบคอบ เพื่อให้เกิดผลสูงสุดตามนโยบาย
บางกอก คอมโมดิตี้ เทรดดิ้งเซ็นเตอร์("BCTC") ในฐานะศูนย์ปฏิบัติการแลกเปลี่ยนสินค้าแห่งประเทศไทยที่ได้รับอนุญาตจาก THAIEX ตอบสนองต่อข้อเรียกร้องของกระทรวงเกษตรของประเทศไทย ด้วยความมุ่งมั่นในภารกิจสำคัญสองประการ ได้แก่ ความช่วยเหลือด้านการเกษตรและการศึกษาด้านการลงทุน เป้าหมายคือการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสังคมผ่านความช่วยเหลือด้านการเกษตรและการศึกษาด้านการลงทุน